รีวิว: เสื้อซัปโปโร No.18 มีอะไรดี? ถึงขายดี?

แน่นอนว่า ถ้านักเตะคนไหน เป็นขวัญใจแฟนบอล เสื้อของนักเตะคนนั้น ก็จะขายดีไปด้วย เหมือน ‘เจ-ชนาธิป’ ที่กลายเป็นจอมทัพคนสำคัญของ ‘คอนซาโดเล่ ซัปโปโร’ จนเสื้อเบอร์ 18 ของทีม ได้อานิสงส์ไปด้วยในที่สุด
ซึ่งไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่น แต่ในไทยเองก็ได้ข่าวว่า ยอดขายกำลังพุ่งสูงขึ้นทุกวัน สำหรับเสื้อเบอร์ 18 ของ ชนาธิป โอเค เรื่องความนิยมชมชอบในตัวนักเตะก็ส่วนหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนั้น ชิ้นงานของดีไซน์, รูปทรง กับเนื้อผ้า ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของคนซื้อด้วยว่า ‘คุ้มค่าที่เราจะสอยมันมาหรือไม่?’ และถ้าคุณกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่
ลองมาดูคำตอบพร้อมกันว่า เสื้อตัวนี้ มีจุดเด่นอะไรที่จะทำให้คุณรู้สึกสนใจ จนยอมซื้อหามาไว้ในครอบครอง
ดีไซน์
มองผิวเผิน ดีไซน์ดูไม่หวือหวา ไม่น่ามีอะไร แต่ที่จริงแล้วมีทุกเม็ด ไล่ตั้งแต่เรื่องสีทุกสีบนเสื้อที่มีความหมาย เช่น สีดำ เป็นตัวแทนแห่งพลังอันไม่มีที่สิ้นสุด เสมือนกับผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ของเกาะฮอกไกโด ส่วน สีแดง สื่อถึงสปิริต จิตวิญญาณ หรือความมีไฟในการต่อสู้ สรุปคือ 2 สีนี้ ใช้แทนคำว่า ‘พลังงาน+จิตใจ’
2 สิ่งที่มีความหมาย (และเป็นสีของทีม) ดูสอดรับกับดีไซน์แถบแนวตั้ง ซึ่งสื่อถึงการพุ่งทะยานไปพร้อมกันได้ พุ่งทะยานไปไหน? ก็ไปตามทางของดาวที่คอเสื้อด้านหลัง เพราะนั่นคือ ดาวเหนือ สัญลักษณ์สำคัญของเมือง
และเป็นตัวแทนแห่งการเดินทางขับเคลื่อนแพสชั่นของทีมไปสู่จุดมุ่งหมาย เรียกว่า ก็สามารถเชื่อมโยงกันได้ แถมหลังเสื้อ มีการแอบพิมพ์รูปแผนที่เกาะฮอกไกโด ซ้อนไว้กับเบอร์ เพื่อสื่อว่า คนทั้งเกาะพร้อมสู้ไปกับทีม
ญี่ปุ่น ก็ยังคงเป็นญี่ปุ่น ความโดนใจที่สุดในแง่ดีไซน์นี้คือ แม้กระแสมินินอลจะมา จนเติมอะไรไม่ได้เยอะมาก แต่ในความเรียบง่ายนั้น รายละเอียดของความหมาย ยังคงครบถ้วน ในความเป็นทีมวิ่งสู้ฟัดแห่งเจลีกอยู่เสมอ
ทรงเสื้อ
เสื้อเชียร์ตัวนี้ มากับทรงที่ไม่ได้เข้ารูปมากนัก และนั่นเป็นข้อดี สำหรับแฟนบอลส่วนใหญ่ ที่ชอบเสื้อใส่สบายตัว แล้วก็ไม่ต้องเผื่อไซส์ เพราะขนาดของเสื้อถูกออกแบบสำหรับคนเอเชียทั่วไป ยกเว้นว่า คุณเป็นคนอวบ (มาก)
โดยมีตั้งแต่ไซส์ S (รอบอก 38 นิ้ว) / M (รอบอก 40 นิ้ว) / L (รอบอก 42 นิ้ว) / 2L หรือ ‘XL’ (รอบอก 46 นิ้ว) และข้อควรรู้คือ แต่ละไซส์ ตัวเนื้อผ้า จะยืดได้อีกประมาณ 2 นิ้ว (ส่วนเรื่องคุณภาพผ้า จะขอแยกรีวิวจากทรง)
ถ้าสงสัยว่า ด้วยทรงเสื้อแบบนี้ ที่ดูเหมือนไม่ได้เป็นแบบสลิมฟิต นอกจากใส่เชียร์ หรือใส่ไปเดินเล่นปกติแล้ว สามารถใส่เล่นกีฬาได้ด้วยรึเปล่า? คำตอบคือ ‘ได้’ สำหรับการออกกำลังกายทั่วไป หรือกีฬาที่ไม่เน้นปะทะกัน
เหตุผลที่แนะนำไปแบบนั้น ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ เพื่อถนอมเนื้อผ้าให้ใส่ได้นานที่สุดตามสไตล์เสื้อเชียร์นั่นเอง
เนื้อผ้า
และมาต่อกันเลยที่เรื่อง ‘เนื้อผ้า’ ที่ใช้เส้นใยโพลีเอสเตอร์ 100% ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะดูธรรมดาสามัญทั่วไป แต่พอได้สัมผัสเนื้อผ้าจริง กลับดีกว่าที่คิดไว้ ความบางเบา แต่ไม่อ่อนแอ คือสิ่งแรกที่สัมผัสได้จากการลองดึง
การเก็บขอบผ้าที่เรียบร้อยกับการถักทอที่ทำได้ละเอียดยิบ (เหมือนเส้นใยคุณภาพดีด้วย) คือ ความรู้สึกที่สอง ซึ่งด้วยเนื้อผ้าที่ดูละเมียดแบบนี้ ทำให้ตราสโมสรที่ถูกพิมพ์ลงบนตัวเสื้อดูสวยกริบ (รวมไปถึงทุกโลโก้บนเสื้อ)
และที่สำคัญคือ ทำให้ผ้ายับยากมาก แม้ว่าเราจะลองพับแล้วพับอีกเป็นสิบรอบ แต่สุดท้ายผ้าก็คลายตัวได้เอง ส่วนสิ่งที่ชอบมากที่สุดต่อจากนั้น คือ ความเย็นของเนื้อผ้าที่ช่างเหมาะกับคนในเมืองร้อนอย่างพวกเรามากเลย
ถึงตรงนี้ หลายคน อาจมีคำถามว่า เสื้อตัวนี้ ผลิตที่ไหน? คำตอบคือ ประเทศไทย แต่คุมคุณภาพโดยทางญี่ปุ่น ประเทศที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้าของโลก ซึ่งจุดนี้ ทำให้ไม่แปลกใจเรื่องคุณภาพวัสดุกับการผลิต
คุณค่า
รู้หรือไม่? ถ้าใส่เสื้อตัวนี้ไปตามท้องถนน ไม่ว่าจะในไทย หรือญี่ปุ่น แล้วเจอแฟนบอลจากแดนอาทิตย์อุทัยที่รู้จัก หรือเชียร์ ชนาธิป, หรือเป็นแฟนซัปโปโร พวกเขาอาจจะเดินมาหาคุณ เพื่อทักทาย เสมือนเป็นเพื่อนกัน
เมื่อได้เห็นคุณใส่เสื้อของทีมนี้ และเบอร์ของนักเตะตัวเล็กที่เป็นขวัญใจของพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดฮอกไกโด และยิ่งถ้ารู้ว่า คุณเป็นคนไทย พวกเขาอาจชื่นชมในความเป็นคนไทย และยกย่อง เจ-ชนาธิป ต่อหน้าคุณด้วย
ซึ่งนั่นถือเป็นคุณค่า และความหมายของเสื้อตัวนี้ ที่แฟนบอลไทย ได้เคยประสบพบเจอกันมา หลังใส่เสื้อตัวนี้
บทสรุป
สำหรับเสื้อตัวนี้ นอกจากดีไซน์ที่ดูสวยดี และมีความหมายในแง่ของการสื่อสารข้อความได้อย่างน่าชื่นชมแล้ว สิ่งที่ทำให้ดูคุ้มค่ากับเงิน 950 ที่ต้องจ่ายไปคือ คำว่า ‘คุณภาพ’ สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ชิ้นงานของเสื้อดูหรูดูแพง
แม้ตรงตรา หรือโลโก้ จะไม่ได้มาเป็นเฟล็กซ์ หรืออาร์ม แต่ด้วยเนื้อผ้า และระบบการพิมพ์ ทำให้ออกมาดูดีได้ โดยเหตุผลพวกเขาที่เลือกทำแบบนี้คือ การที่เราไม่ต้องคอยห่วงว่าตรา หรือป้ายบนเสื้อจะหลุดออกมาเมื่อไหร่
และเสื้อตัวนี้ ถือว่าเป็นเกรดเดียวกับเสื้อเวอร์ชั่นที่วางขายในญี่ปุ่นทุกอย่าง ต่างกันแค่ตรงป้ายที่เป็นภาษาไทย ใครเป็นแฟน ‘ชนาธิป’ บอกเลยว่า เสื้อทีมตัวล่าสุดของเขาตัวนี้ ควรค่าแก่การสะสมไว้ในคอลเล็กชั่นอีกสักตัว
หรือใครมีเสื้อทีมในยุโรป หรือไทยเยอะแล้ว อยากจะเปลี่ยนแนว ขอแนะนำเสื้อจากเจลีกตัวนี้ไว้เป็นทางเลือก สนใจแอดไลน์สั่งซื้อได้ที่ LINE @Siamsportshop หรือ https://lin.ee/HznZMHI (รีบหน่อย เดี๋ยวของหมด)